ประเภทของไม้จะเป็นตัวกำหนดว่า “ความสวยงาม” และ “ความทนทาน” ของชิ้นงานที่เราจะทำ นั่นหมายความว่าเราจำต้องมีความรู้ในการเลือกไม้ก่อนถึงจะได้ผลงานที่ดีได้ เนื่องจากไม้แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปซึ่งในไม้ชนิดเดียวก็อาจมีความแข็งแกร่งไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการตัดไม้ที่นำมาใช้ที่แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักได้แก่ Plan, Quarter Swan และ Rift Swan ในไม้เนื้อแข็งส่วนใหญ่จะเป็นการตัดแบบ Plain หรือ Quarter sawn สำหรับไม้เนื้ออ่อนที่ใช้ในการก่อสร้างทั่วไปจะตัดแบบ Rift sawn ในโรงเลื่อยที่ทันสมัยจะมีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการคำนวณเครื่องเลื่อยไม้เนื้ออ่อน มันจะถูกประมวลผลในหลายๆ วิธีเพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุด
ประเภทของไม้ที่นิยม
1.ไม้สน
เป็นไม้ที่ได้จากป่าที่มีความหนาแน่นสูง มียางเยอะ เหมาะกับการนำมาใช้งานเพราะพันธุ์ส่วนใหญ่จะค่อนข้างอ่อน ไม้สนนิยมนำมาใช้ทำในเฟอร์นิเจอร์เพราะง่ายต่อการประกอบ รวมถึงในขั้นตอนทำสี (ต้องรองพื้นด้วยวูดซีลเลอร์) มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มช่างไม้สำหรับนำไปทำ กรอบหน้าต่าง กรุพื้น หลังคา
2.ไม้ซีดาร์
ชนิดที่พบมากที่สุดของต้นซีดาร์เป็นพันธุ์สีแดงตะวันตก เป็นไม้โทนสีแดงที่ค่อนข้างอ่อน ลำต้นจะตั้งตรงแถมยังมีกลิ่นหอมมากที่สุดอีกด้วย จึงไม่แปลกที่จะเห็นมันถูกนำมาใช้ทำเป็น ตู้เสื้อผ้า ไม้แขวนเสื้อ หรือ ลิ้นชัก มีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นดีเยี่ยม เหมาะกับนำไปใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ระเบียง ตัวอาคาร
3.ไม้เฟอร์
มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า “ดักลาสเฟอร์” เป็นไม้ตรงที่มีโทนสีน้ำตาลมักถูกนำไปใช้สำหรับการก่อสร้างบ้าน เนื่องจากเป็นไม้ที่มีราคาแพงจึงถูกนำไปใช้ทำเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือมันไม่ค่อยดูดซึมสี ดังนั้นช่างส่วนใหญ่จะปล่อยเป็นงานดิบ ถือว่าเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงปานกลาง มีความแข็งเมื่อเทียบกับไม้เนื้ออ่อน
4.ไม้เนื้อแข็ง
ถือว่าเป็นไม้ขวัญในของช่างทั้งหลายที่ต่างก็เลือกใช้มาทำงานกันทั้งสิ้น เนื่องจากมันมีสีและลายไม้ที่สวยงาม เหมาะสำหรับนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์โชว์ลายไม้ ข้อเสียของไม้เนื้อแข็งคือราคาของมันแพงสุดๆ บางสายพันธุ์ที่แปลกๆ บางตัวอาจแพงเกินกว่าจะนำมาใช้กับอะไรได้ นอกจากเครื่องไม้ประดับมุก
5.โอ๊ก
บนโลกของเรามีต้นโอ๊กกว่า 200 สายพันธุ์ หนึ่งในสายพันธุ์ที่ดีสุดคือต้นโอ๊กอังกฤษที่ถูกใช้งานมานานกว่า 1,000 ปี เนื่องจากมันเป็นไม้ที่แข็งสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลาย ทนต่อความชื้น ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ แถมยังป้องกันโจมตีของแมลง เชื้อรา เนื่องจากมีสารประกอบของแทนนินสูง ในอดีตมันเคยถูกใช้ประกอบเรือไวกิ้งในช่วง ในศตวรรษที่ 9 – 10 ที่ใช้สำหรับเดินทางข้ามมหาสมุทรในช่วงยุคแรกๆ