บ้านไม้สัก เป็นบ้านไม้ทรงไทยที่สวยงามสะดุดตาหลายๆ คน เป็นเอกลักษณ์บ้านไม้ที่ยากจะหาบ้านไม้ประเภทอื่นมาเทียบ บ้านไม้สักจึงเป็นบ้านในฝันที่อยากจะปลูกไว้สักหลัง เพราะมีความงามและความคงทน แต่บ้านไม้สักมีข้อดีข้อเสีย ดังนั้นก่อนจะปลูกควรต้องรู้จักเนื้อไม้ ลักษณะการใช้งาน การดูแลไว้ก่อน
รู้จักไม้สักก่อนดีกว่า
ไม้สักเป็นจัดอยู่ในกลุ่มประเภทไม้เนื้ออ่อน เป็นไม้ตรงมีเนื้อละเอียดสวยงาม เห็นวงปีชัดเจน เนื้อไม้แข็งแรงปานกลาง ทนทาน ขัดเงาได้ดี ไม้บิดงอโก่งตัวยากกว่าไม้อื่น ไม้สักที่ดีจึงใช้ระยะเติบโตนาน ยิ่งมีอายุมากยิ่งผลิตน้ำมันธรรมชาติได้ดี เรียกน้ำมันชนิดนี้ว่า “สารเทคโทควิโนน” จึงมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ปลวกไม่ชอบ แต่ถ้าหากไม้สักเติบโตเร็วจะไม่มีน้ำมันเกิดขึ้นปลวกจึงเลือกกินไม้สักได้เช่นกัน แต่มีวิธีจัดการปลวกได้หากนำไม้สักไปปลูก คือการอาบน้ำยากันปลวกเพื่อป้องกันปลวกมาทำรังกัดกินไม้สัก แต่ปัจจุบันพบไม้สักน้อยลง หายาก จึงมีราคาแพง ไม้สักที่ดีที่สุดและแพงที่สุดคือ ไม้สักทอง
ปัจจุบันนิยมนำไม้สักเป็นไม้ตกแต่งภายใน
แม้ว่าจะทนต่อการผุกร่อนได้ดีเยี่ยม แต่ว่าไม่ค่อยทนแดดจัด ช่างไม้จึงแนะนำว่าควรนำไม้สักเป็นไม้ตกแต่งภายในบ้าน เช่น วงกบ บานประตู หน้าต่าง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ หรือนำไปใช้เป็นส่วนโครงสร้างรับน้ำหนักตัวบ้าน จึงนิยมนำเนื้อไม้สักไปรวมกับไม้เนื้ออื่นเพื่อเพิ่มความสวยงามประณีตวิจิตรตระการตาให้กับบ้าน นำไม้สักแกะสลักต่อเติมบ้านเพิ่มความโดดเด่น
ปัจจัยที่มีผลต่อบ้านไม้สัก
บ้านไม้เป็นบ้านที่ปลูกยากกว่าปูน แต่ข้อดีของบ้านไม้สักคือระบายความร้อนได้ดี ไม่อบอ้าว จึงเหมาะกับประเทศไทยที่มีอุณหภูมิร้อน หากเกิดแผ่นดินไหวบ้านไม้จะมีความยืดหยุ่นได้ดีกว่าบ้านปูน แต่ทั้งนี้ต้องดูแลรักษาบ้านไม้ด้วย
- บ้านไม้ที่มีอายุนานจะมีการยืด-หดตามสภาพอากาศ อาจเกิดปัญหาการรั่วซึมระหว่างช่องไม้ได้ จึงควรตรวจสอบอย่างละเอียด ทำระบบกันรั่วซึม ทาน้ำยากันรั่วซึมไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
- บ้านไม้มักมีเสียงดังได้เวลาเดิน
- มีปัญหาปลวกแมลงมากัดกินไม้ จึงต้องทาสีกันแมลงเพื่อป้องกันการผุกร่อนของเนื้อไม้
- ช่างฝีมือที่มีความชำนาญด้านงานไม้หายาก และราคาวัสดุ ราคาก่อสร้างแพงกว่าบ้านปูนหลายเท่า
- ในส่วนของพื้นที่ระเบียง บันไดที่เสี่ยงโดนฝนเป็นประจำ ต้องทาสีน้ำมันหรือสีพลาสติก เพื่อกันความชื้นไม่ให้น้ำซึมลงเนื้อไม้ เสี่ยงไม้ผุพังได้ในอนาคต