งานไม้ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ของประดับที่ทำด้วยไม้ ของใช้ต่างๆ ที่ทำจากไม้ ล้วนแล้วแต่เป็นของที่มีเสน่ห์ เป็นงานที่ช่างต้องใช้ความประณีตในการสร้างสรรค์งานออกมา และเมื่อมาอยู่ในความครอบครองของเราก็ย่อมต้องอยากให้คงทนและสวยงามใช้งานไปได้อีกตราบนานปี การรักษาและดูแลงานไม้ให้สวยงามไปนานๆ มีเคล็ดลับและวิธีการคือ
1. รอยขีดขูดหรือด่าง
เมื่องานไม้มีอายุนานวันเข้าก็มักจะเกิดรอยขูดขีดขึ้น ให้ใช้ผ้าสะอาด นำมายองเนสมาหยดลงไปบนผ้าแล้วถูลงบนไม้ที่เป็นรอยนั้น รอยด่างต่างๆ จะจางลง ถ้าเนื้อไม้มีรอยลึกเข้าไปเป็นรอยขีดข่วน ก็ให้ใช้ยาขัดรองเท้าที่มีสีใกล้เคียงกับตัวงานไม้ทาลงบนรอยจะทำให้รอยจางลงได้
2.การทำความสะอาด
การทำความสะอาดงานไม้ประจำวัน ให้ใช้ไม้ขนไก่มาเป็นอุปกรณ์ในการปัดฝุ่นออกก่อน จากนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดจนสะอาด แต่หากพบว่ามีคราบและร่องรอยเปื้อนมาก ก็ให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ที่ละเอียดๆ มาขัดออก งานไม้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน เช่น งานที่ทำจากหวาย หรือทำจากวัสดุไม้ยาง ไม่ควรขัดแรงๆ แต่ให้ใช้แปรง อ่อนๆ ปัดหรือไม้ขนไก่มาปัดฝุ่นออก จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดเช็ดออก อีกที ถ้ามีรอยด่างหรือเปื้อนมากควรใช้น้ำส้มสายชูผสมเข้ากับน้ำอุ่นเช็ดให้ทั่ว นำขี้ผึ้งมาขัดเป็นขั้นตอนสุดท้าย
3 .การป้องกันงานไม้เสียหาย
งานไม้อาจจะเสียหายได้จากแมลงจพวกมอด ปลวกกัดแทะ หรือถ้างานไม้ตั้งอยู่ในที่แดดส่งถึงหรือวางกลางแดดนานๆ ก็จะเสียหาย ซีด โก่งแตก ปริ ได้ง่าย เมื่อผ่านไปนานวัน วิธีดูแลรักษาก็คือ ให้ซื้อน้ำยาทาไม้กันปลวกมาทาเคลื่อบไว้ และใช้ยูริเทนมาทาเพื่อป้องกันสีไม้และผิวของงานไม้ การทาต้องเตรียมเนื้อไม้ให้พร้อมด้วยการทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด จากนั้นทิ้งไว้จนแห้งดีแล้วจึงทาน้ำยาลงไป ระหว่างที่น้ำยายังไม่แห้งดีอย่าเผลอไปแตะหรือดูอย่าให้มีฝุ่น หรือ ผงตกลงไปถูกเนื้อไม้จะทำให้เป็นรอยไม่สวย
4. ที่สำหรับวาง งานไม้
สถานที่ที่วางงานไม้ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ของตกแต่งหรืองานไม้ใดๆ ก็ตาม ไม่ควรวางในที่ที่อับหรือชื้น แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้หมั่นระบายอากาศในบริเวณนั้นบ่อยๆ เช่นเปิดหน้าต่าง ใช้พัดลมระบายหรือนำงานไม้ออกมาตากแดดบ้าง เพื่องานไม้จะไม่ชื้นจนเป็นราหรทอเสียหาย